ฉลองปีใหม่อย่างไร ให้พร้อมมีลูกในปีหน้า?

 

ฉลองปีใหม่อย่างไร ให้พร้อมมีลูกในปีหน้า? มีบุตรยาก

เทศกาลเฉลิมฉลองใกล้เข้ามากันแล้ว งานนี้เรียกว่าเดินสายไปงานปาร์ตี้ สังสรรค์กันแบบรัวๆ แน่นอนใช่ไหมคะ ซึ่งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารการกิน รวมไปถึงการปาร์ตี้จัดหนักจนถึงเช้า

แต่ๆ ใครที่กำลังวางแผนจะมีลูกในปีหน้าเนี่ยคงต้องชั่งใจกันซักหน่อย เพราะพฤติกรรมบางอย่างอาจส่งผลให้คุณมีลูกยากได้ ดังนั้นเรามาดูกันว่าควรฉลองปีใหม่อย่างไรดีให้พร้อมมีลูกในปีหน้า

  1. ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ – ไม่ควรดื่มเกินกว่า 14 หน่วยต่อสัปดาห์ ซึ่งคิดเป็นปริมาณเบียร์ 5.5 ไพท์ (ประมาณ 2.6 ลิตร) เพราะนอกจากเพิ่มเสี่ยงให้ตับทำงานหนัก และก่อให้เกิดมะเร็งได้แล้ว ยังลดโอกาสในการมีลูกมากถึง 50% เลยทีเดียว

 

2. ลดการการสูบหรือได้รับควันจากบุหรี่ – สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเพื่อมีบุตรในอนาคตควรจะเลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาด เนื่องจากบุหรี่นั้นไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพของผู้ที่สูบ แต่ยังส่งผลต่อผู้ที่อยู่รอบข้างและบุตรในครรภ์อีกด้วยนั่นเอง ปาร์ตี้ไหนมีบุหรี่แนะนำให้เลี่ยงนะคะ

 

 

3. ลดปริมาณการทานของหวาน – แน่นอนว่าความหวานทำให้เกิดภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน นอกจากนี้ยังมีผลต่อเซล์ไข่ของสาวๆ ด้วย ไปปาร์ตี้ไหนเจอของหวานเยอะๆ แนะนำให้เลี่ยงนะคะ ซึ่งการลดน้ำตาลลงจะส่งผลให้มีอัตราการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 83% เลยทีเดียว

 

 

4. งดปาร์ตี้ยันเช้า นอนไม่เป็นเวลาหรือนอนดึก – อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การทำงานของร่างกายไม่สมดุล จนในที่สุดก็ส่งผลต่อฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้เช่นกันนะ เพราะฉะนั้นปาร์ตี้แต่พอดี นอนให้เป็นเวลากันด้วยน้า

 

 

ปาร์ตี้สังสรรค์อาจเป็นความสุขของใครหลายๆ คน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรดื่มหรือใช้ชีวิตให้อยู่ในความเหมาะสม ยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตรแล้วยิ่งต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมสู่การตั้งครรภ์ สำหรับท่านไหนที่กำลังมีปัญหาหรือต้องการปรึกษาภาวะมีบุตรยากก็สามารถเข้ามาปรึกษากับ Prime Fertility Clinic ได้เลยนะคะ

ที่มา: “The UK Chief Medical Officers’ Alcohol Guidelines Review” และ “The American Society of Reproductive Medicine” (ASRM)

Reference: Prime Fertility Center Co., Ltd.

สนใจบริการทำเด็กหลอดแก้ว : www.primefertilitycenter.com/package-promotion/icsi-fulfill-family-package-2/

ICSI การทำอิ๊กซี่ การทำอิ๊กซี่ หรือ Intracytoplasmic sperminjection (ICSI) เป็นการปฏิสนธินอกร่างกายที่ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในห้องปฏิบัติการ ซึ่งขั้นตอนคล้ายกับการทำเด็กหลอดแก้วหรือ IVF แต่การทำอิ๊กซี่จะมีความแตกต่างคือ อิ๊กซี่เป็นการนำเอาอสุจิที่ผ่านการคัดเลือกที่ดีที่สุดหนึ่งตัวผสมต่อไข่ที่อยู่ในระยะที่เหมาะสมในการปฏิสนธิหนึ่งใบ โดยการใส่อสุจิเข้าไปในเนื้อไข่โดยตรง กระบวนการนี้จะต้องมีการกระตุ้นไข่ด้วยยาฮอร์โมนเพื่อให้ได้ไข่จำนวนหลายใบ และยังให้ผลการปฏิสนธิเป็นที่น่าพึงพอใจ ช่วยลดปัญหาการปฏิสนธิหรือการปฏิสนธิแบบผิดปกติอันเนื่องมาจากไข่และอสุจิ เช่น การเกิดการผสมด้วยอสุจิหลายตัว, อสุจิไม่สามารถเจาะผ่านเปลือกไข่เพื่อเข้ามาปฏิสนธิได้ เป็นต้น หลังจากนั้นตัวอ่อนจะถูกนำไปเพาะเลี้ยงในภาวะที่เหมาะสมในห้องปฏิบัติการตัวอ่อน แล้วจึงนำตัวอ่อนฉีดกลับเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวที่มดลูกและเจริญเติบโตเป็นทารกต่อไป

คู่สมรสที่ควรรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีการทำ ICSI
1. ฝ่ายหญิงมีอายุค่อนข้างมาก (มากกว่า 35 ปี)
2. ฝ่ายหญิงมีภาวะท่อนำไข่ตีบตันทั้งสองข้าง
3. ฝ่ายหญิงมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ค่อนข้างรุนแรง
4. ฝ่ายหญิงมีการทำงานของฮอร์โมนรังไข่ผิดปกติ เช่น ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง หรือโรคถุงน้ำรังไข่ (PCOS)
5. ฝ่ายชายมีอสุจิผิดปกติรุนแรง ทั้งทางด้านรูปร่าง ความสามารถในการเคลื่อนที่ รวมถึงจำนวนของอสุจิด้วย
6. ฝ่ายชายที่เป็นหมันหรือทำหมัน แต่ยังคงมีการสร้างอสุจิและสามารถนำอสุจิออกมาได้จาก วิธีการผ่าตัด เช่น การทำ PESA, TESA, TESE เป็นต้น
7. คู่สามีภรรยาที่เคยไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิสนธินอกร่างกายด้วยวิธี IVF
8. คู่สามีภรรยาที่ต้องการตรวจคัดกรองโรคทางพันธุกรรมด้วยของตัวอ่อน

FET การย้ายตัวอ่อนแช่แข็ง
การย้ายตัวอ่อนแช่แข็ง หรือ FET (FROZEN EMBRYO TRANSFER) คือการนำเอาตัวอ่อนที่ถูกแช่แข็งไว้มาผ่านกระบวนการละลาย (THAWING) และย้ายเข้าสู่โพรงมดลูก ซึ่งในกรณีนี้คนไข้สามารถเลือกช่วงเวลาที่ตนเองสะดวกได้ เช่น 1-2 เดือนหลังจากกระบวนการปฏิสนธิ การย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็งในสตรีที่มีอายุมากกว่า 35 ปีจะให้ผลดีกว่าการย้ายตัวอ่อนในรอบสด

เนื่องจากในกรณีที่ฝ่ายหญิงกระตุ้นไข่ได้หลายใบจะทำให้มีฮอร์โมนผลิตออกมาจากรังไข่ปริมาณมาก ซึ่งฮอร์โมนนี้จะส่งผลทำให้คุณภาพของเยื่อบุโพรงมดลูกด้อยลง และทำให้โอกาสการฝังตัวของตัวอ่อนลดลงแม้ตัวอ่อนจะมีคุณภาพดีก็ตาม ดังนั้นการใส่ตัวอ่อนตามหลังการเก็บไข่เลยอาจไม่เหมาะสมนักในกรณีนี้

นอกจากนั้นผลการศึกษาจากหลายสถาบันก็มีแนวโน้มว่าการใส่ตัวอ่อนในรอบแช่แข็งและละลายจะให้โอกาสการตั้งครรภ์ที่สูงกว่าใส่หลังเก็บไข่เลย ด้วยเรื่องของคุณภาพเยื่อบุโพรงมดลูกที่พร้อมมากกว่าดังนั้นการเลือกย้ายตัวอ่อนในรอบใดนั้นแพทย์จะพิจารณาให้เหมาะสมกับคู่สมรสเป็นราย ๆ ไป

ทำ ICSI ราคา มีบุตรยาก

Related Posts