7 วิธีเตรียมตัวมีลูกในปี 2567

7 วิธีเตรียมตัวมีลูกในปี 2567

 

7 วิธีเตรียมตัวมีลูกในปี 2567

1. ตรวจร่างกายและวางแผนการตั้งครรภ์กับแพทย์
เพื่อการเตรียมความพร้อมที่มั่นใจ ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการตั้งครรภ์ ซึ่งเมื่อไปปรึกษาแพทย์จะมีการตรวจร่างกายเพื่อดูว่าทั้งคู่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลการตั้งครรภ์หรือไม่ ตรวจความเสี่ยงต่าง ๆ เกี่ยวกับพันธุกรรม โรคต่าง ๆ เพื่อจะได้ดูแลรักษาให้อาการดีขึ้นก่อนการตั้งครรภ์ รวมถึงแนะนำวิธีนับวันตกไข่เพื่อการวางแผนมีลูกที่ง่ายขึ้น

2. เข้ารับการฉีดวัคซีนที่จำเป็น
นอกจากการตรวจร่างกายแล้ว แพทย์จะมีการตรวจภูมิคุ้มกันต่าง ๆ และฉีดวัคซีนที่สำคัญก่อนที่จะตั้งครรภ์ให้กับฝ่ายหญิง เช่น หัดเยอรมัน สุกใส เป็นต้น ซึ่งหากไม่มีภูมิคุ้มกันต้องฉีดวัคซีนป้องกันและรออีกอย่างน้อย 3 เดือนถึงจะปล่อยให้ตั้งครรภ์ได้

3. เช็กสุขภาพฟัน
สำหรับผู้หญิงที่กำลังจะวางแผนตั้งครรภ์เรื่องของสุขภาพฟันสำคัญมาก เพราะหากมีฟันผุอาจทำให้เกิดปัญหาในการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นก่อนตั้งครรภ์จึงควรไปตรวจสุขภาพเหงือกและฟัน พร้อมกับดูแลรักษาให้หายดีก่อนจะได้ไม่มีปัญหาระหว่างตั้งครรภ์

4. ตรวจเช็กยาประจำตัว
ปรึกษาแพทย์เพื่อเช็กว่ายาที่ใช้อยู่มีผลกระทบต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ หากมีผลอาจจะต้องหยุดยาไปสักระยะ และควรงดใช้ยาคุมกำเนิดแล้วใช้วิธีอื่นแทน ก่อนจะปล่อยให้ตั้งครรภ์ประมาณ 2-3 เดือน เพื่อให้ระบบการทำงานของมดลูกเป็นไปอย่างปกติสมบูรณ์

5. ดูแลควบคุมน้ำหนัก
น้ำหนักที่ต่ำกว่าหรือสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งของฝ่ายหญิง มีผลกับการตั้งครรภ์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรดูแลน้ำหนักให้ดัชนีมวลกาย Body Mass Index (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติ หากสูงหรือต่ำไปต้องปรับเรื่องของอาหารและโภชนาการ การออกกำลังกาย เพื่อให้น้ำหนักเหมาะสม ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นแล้วยังช่วยให้ตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นด้วย

6. เสริมวิตามิน กินแต่อาหารที่มีประโยชน์
เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ งดสูบบุหรี่ นอกจากนั้นว่าที่คุณแม่อาจจะเสริมด้วยวิตามินสำคัญในการเตรียมตัวตั้งครรภ์ เช่น โฟเลต ที่มีคำแนะนำให้กินก่อนตั้งครรภ์วันละเม็ดประมาณ 1-3 เดือน จะช่วยให้ทารกที่จะเกิดมาแข็งแรงและไม่เสี่ยงกับการพิการแต่กำเนิดได้

7. พักผ่อน ออกกำลังกาย ลดความเครียด
ความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานไม่ปกติ รวมถึงการตกไข่และคุณภาพของเชื้ออสุจิ ดังนั้นทั้งสามีและภรรยาจึงควรผ่อนคลายไม่เครียด และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อร่างกายและจิตใจที่สดชื่นแจ่มใส

เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็อย่าลืมหาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ช่วยให้หลายๆ คู่มีลูกสมใจกันมาแล้ว และหากกังวลว่าคู่ของคุณเข้าข่ายมีบุตรยาก ควรรีบมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมีบุตรยากเพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

Prime Fertility Center ไม่ได้เพียงแค่ให้การรักษาภาวะมีบุตรยาก มีบุตรยาก มีลูกยากเพียงเท่านั้น สิ่งที่ Prime Fertility Center มุ่งหวัง และมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง คือการให้บริการลูกค้าด้วยความใส่ใจ พร้อมให้คำปรึกษา ดูแล และใส่ใจทุกความรู้สึกของคุณ เหมือนกับเป็นคนในครอบครัว เพราะเราเข้าใจถึงความรู้สึก ความกดดัน ความเครียดของผู้เข้ารับบริการที่ไม่สามารถมีบุตรได้สำเร็จเป็นอย่างดี ทางคลินิกจึงมีความตั้งใจที่จะมอบความอบอุ่น และอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้ารับบริการอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยความมุ่งมั่นและความใส่ใจจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักเพาะเลี้ยงตัวอ่อน และทีมงานมากประสบการณ์ในการดูแลและให้คำปรึกษาแบบครบวงจร

 

สนใจเข้ารับการปรึกษาภาวะมีบุตรยาก
ติดต่อ Prime Fertility Center
โทร : 062-648-6688 / 062-648-8866 / 02-029-1418–9
Line : http://line.me/ti/p/~@primefertility
Facebook : https://www.facebook.com/primefertilitycenter
E-mail : [email protected]

เวลาทำการ
วันจันทร์ – วันพุธ , วันศุกร์และวันเสาร์
เวลา 08.00 – 16:00 น.
หยุดวันพฤหัสบดี วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

 

Related Posts

ปัญหามีบุตรยาก

10

พ.ค.
ข่าวสาร สาระน่ารู้

ปัจจัยเสี่ยงและการรับมือกับปัญหามีบุตรยากในผู้หญิงและผู้ชาย

ปัจจัยเสี่ยงและการรับมือกับปัญหามีบุตรยากในผู้หญิงและผู้ชาย เผยปัจจัยเสี่ยงพร้อมวิธีรับมือ […]

เด็กหลอดแก้ว ราคา

10

พ.ค.
ข่าวสาร สาระน่ารู้

เด็กหลอดแก้ว เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก

เด็กหลอดแก้ว เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก ทำความร[…]